รองเท้าวิ่งปลอม

สินค้าดีมีคุณภาพต้องถูกสร้างขึ้นมาจากความเชื่อถือของผู้ใช้เป็นเวลานานๆ
นั่นคือวิธีการที่แสดงออกถึงการภักดีต่อลูกค้า ก็คือ การรักษาคุณภาพของสินค้า
แล้วเงินกำไรจะมาภายหลัง

แต่ต้นทุนการสร้างแบรนด์จากของโนเนมมาเป็นแบรนด์เนมที่ใครก็รู้จัก
ไม่ใช่จะสามารถเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน กว่าจะประสบความสำเร็จก็นานนัก

การตั้งราคาสินค้าจะตั้งให้สูงเท่าไรก็ได้ แต่จะมีคนซื้อหรือๆไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ของเบรนด์เนมที่มากับประวัติคุณภาพที่น่าเชื่อถือ ที่รับประกันจากยี่ห้อ
สามารถตั้งราคาให้สูงได้ แล้วที่สำคัญ ก็มีคนซื้อด้วย
ขณะเดียวกัน ของโนเนม ผู้คนจะลังเล ที่จะซื้อหา แม้จะมีราคาที่ถูกกว่าก็ตาม

ประสิทธิภาพรองเท้าวิ่ง สำคัญกว่าประสิทธิภาพของรองเท้าอื่นๆใช่หรือไม่
เพราะรองเท้าอื่นเช่นรองเท้าทำงานอาจถูกถอดพักขณะอยู่ในออฟฟิศ
ใส่รองเท้าแตะตลอดวัน จะใส่เฉพาะขามาและขากลับเท่านั้น

แต่รองเท้าวิ่งมันจะต้องถูกผูกติดกับเท้าเราไปตลอดระยะทาง
สี่สิบสองกิโลเมตรอย่างหนักหน่วงกระแทกกระทั้นเสียดสี

ผู้ผลิตรองเท้าที่มักง่ายก็จะหาทางไปทางลัด โ
ดยไม่ผ่านการเริ่มต้นเตาะแตะปูพื้นฐานความน่าเชื่อถือ
แต่กลับขโมยความน่าเชื่อถือจากที่คนเขาสร้างมาแล้ว

ในรูปแบบการประดิษฐ์ให้ดูเหมือนกัน
เป็นการคอรรับชั่นความน่าเชื่อถืออย่างสำคัญ

โดยนัยยะแห่งระยะทางและความอุตสาหะฝึกฝน
นักวิ่งไม่ควรขี้เหนียวประหยัดเงินตราด้วยการใช้รองเท้าคุณภาพต่ำ
เพราะสิ่งที่อาจสูญเสียไป อาจไม่คุ้มค่ากับการประหยัดที่สงวนไว้ได้

อุตส่าห์ฝึกมาแทบตาย แต่ผลลัพธ์จากการลงสนามไม่สามารถเข้าถึง
ระดับประสิทธิภาพสูงสุดที่มีได้ น่าเสียดาย

สิ่งที่ยากเย็นก็คือ การฝึกฝนทั้งทางร่างกาย คือบรรดาแผนฝึกต่างๆ
รวมไปทั้งวินัยและกระบวนการวิธีคิดถึงเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาว

สิ่งที่นักวิ่งต้องการก็คือ พยายามจะเข้าถึงในทุกสิ่งที่เอื้อให้เขาแสดงศักยภาพสูงสุด
การประหยัดควรใช้ในกรณีที่ตัวสินค้ามีเนื้อหาสาระไล่เลี่ยกันเท่านั้น

แต่รองเท้าวิ่งของแท้กับของปลอม บางครั้งอาจมีเนื้อหาสาระที่แท้จริงไกลกันมาก
จนทำให้การพยายามประหยัดกลายเป็น “เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย”
สิ้นโอกาสการฝึกเพราะต้องใช้เวลาเยียวยาความบาดเจ็บจากคุณภาพรองเท้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

รองเท้าแบรนด์จะมีคิวซี คือการควบคุมในสายการผลิตพร้อมที่จะคัดออก
คู่ที่หลุดออกมจากคุณภาพ ไม่เป็นไปตามที่ออกแบบไว้
แต่รองเท้าเลียนแบบหรือของปลอม มีเป้าหมายสูงสุด คือ “เหมือน”

ยิ่งเหมือนมาก ก็ยิ่งดี หาใช่คุณภาพที่นักวิ่งต้องการไม่
สิ่งที่พวกเราต้องการอย่างแท้จริง หาใช่ความเหมือนไม่
แต่เป็นรองเท้าที่จะไม่หน่วงเราไว้ เอื้อให้เราแสดงความสามารถสูงสุดออกมา
ฝึกมาเท่าไร ใช้ให้ครบทุกเม็ด

รองเท้าวิ่งปลอมสมัยแรกๆ จะอยู่นอกงานวิ่ง
นักวิ่งทุกคนเคยสามารถไว้ใจผู้ขาย(ในงานวิ่ง)
จะเอาแต่เฉพาะของแพง(แท้) มาให้เท่านั้น
ของปลอมต้องหาข้างนอก

แต่ปัจจุบันรองเท้าปลอมระบาดเข้ามาในงานวิ่งแล้ว
ผู้ซื้ออาจ “โดน” ของปลอมเข้าให้ ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้น

เศรษฐกิจมันไม่ดี นักวิ่งประหยัดกันมากขึ้น รองเท้าราคาแพง แต่เงินเดือนเท่าเดิม จะซื้อก็ยั้งไว้จนกว่าจะสิ้นสภาพจริงๆ ค่อยหาคู่ใหม่ ผู้ขายจึงขายได้น้อยลง กำไรที่มาเลี้ยงตัวเองก็น้อยลงด้วย
จึงต้องหาช่องทางเพิ่ม ด้วยการเอาของปลอมมาวางเสนอให้กับกลุ่มลูกค้าอื่นทั่วไป ที่ไม่ซีเรียสกับการแข่งขัน
ที่ผ่านมา ผู้มุ่งหวังจะซื้อหลายคน “จับ” ไม่ลง
ราคามันหลายพัน เป็นแม่บ้านของนักวิ่งบ้าง
เป็นคนแถวนั้นบ้าง เป็นคนที่จะพยายามลองออกกำลังกายบ้าง
มีความคาดหวังที่พร้อมจะจ่ายเงินไม่เกินสองพันบาท
จึงไม่สามารถอุดหนุนร้านค้าในงานวิ่งได้เลย

นักวิ่งมาแข่งหนึ่งคน แต่อาจเอาทั้งครอบครัวมาด้วย มีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งคน
เป็นจำนวนที่ผู้ขายรองเท้าในสนามไม่ต้องการให้หลุดมือไป

ถ้าจะกล่าวอย่างเป็นธรรม
ไม่ใช่รองเท้าวิ่งปลอมทุกคู่จะก่อให้เกิดความบาดเจ็บเสมอไป

ยังมีลูกค้าบางคนเอาไปใส่ในภารกิจธรรมดา
รองเท้าปลอมจึงยังรับใช้ผู้จ่ายเงินดีอยู่ในระดับหนึ่ง

แม้กระทั่งนักวิ่งที่ใส่ของปลอมฝึกหรือแข่ง ก็ใช่จะเจ็บหรือเกิดปัญหาทุกราย

รองเท้าวิ่งเป็นแพะรับบาปที่เงียบที่สุด เมื่อผู้ใช้บาดเจ็บ เพราะรองเท้ามันไม่มีปากอธิบายใดๆ

มีนักวิ่งที่บาดเจ็บไม่น้อยเลยที่มีสาเหตุมาจากการคลาดเคลื่อนของการฝึก
และแข่งขันที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนา และฟื้นตัว
ตราบจนทุกวันนี้ความผิดพลาดที่ยังพบบ่อยมากก็ยังเป็นตัวเดิมๆ
จากเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งที่มากเกินไป ,
การวิ่งที่เร็วเกินไป และการวิ่งที่กระชั้นชิดเกินไป

แต่นักวิ่งที่บาดเจ็บมักจะไม่โทษตัวเอง แต่จะโทษอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ตัวเขา
รองเท้าจึงเป็นเป้าการโทษความผิดที่ดี เพราะเหตุนี้

เมื่อ “มูลค่า” รองเท้าแสดงออกด้วย “เม็ดเงิน”
แต่ “คุณค่า” ของมันแสดงออกที่คุณภาพจากผลลัพธ์ความรู้สึกที่ได้รับ
เมื่อใช้งาน ที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน
ในคู่เดียวกันบางคนอาจใช้ดี บางคนบอกแย่
บางคนวิ่งได้ไม่มีปัญหา บางคนกลับเจ็บ
“คุณค่า” จึงเป็นอะไรที่นามธรรมกว่า “มูลค่า”

แม้ในรองเท้าของแท้ด้วยกัน เราก็ยังสามารถพบนักวิ่งผู้ผิดหวังด้วยเช่นกัน
อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้เป็นเนื้อคู่กันกับรองเท้าคู่นั้น
หรือไม่ใช่เป็นรูปแบบชีวกลเดียวกันกับของตนเอง
และรองเท้าปลอมดูเหมือนจะโดนเป็นเป้าโจมตีหนักมากกว่าปกติ

ตราบใดที่รองเท้าวิ่ง ไม่ว่าจะปลอมหรือแท้
สามารถรับใช้นักวิ่งได้อย่างไร้ความกังวล , วิ่งแล้วไม่บาดเจ็บ
และให้เราสามารถจดจ่อกับการวิ่งหรือโฟกัสกับสิ่งอื่นๆที่ไม่ใช่เท้าตัวเอง

รองเท้าคู่นั้นถือได้ว่า มี “คุณค่า” น่าใช้ ไม่ว่าคุณจะจ่ายมันมาเท่าใดก็ตาม

ความเป็นจริงบอกเราว่า ในรองเท้าแบรนด์เนมก็มีทั้งแบบมีคุณค่า และไม่มีคุณค่า
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างใด แน่ใจได้ว่า จ่ายมากกว่าแน่นอน
คือ มีมูลค่าสูงทุกคู่ แต่ในรายรองเท้าวิ่งปลอมก็อาจมีทั้งคุณค่าหรือไม่มีคุณค่าด้วยเช่นเดียวกัน
แต่ก็เกือบจะแน่นอนด้วยว่ามีมูลค่าที่ต่ำกว่า

เมื่อเป็นดังนี้ ประเด็นจึงอยู่ที่ว่า
เราจะหารองเท้าที่มีคุณค่าที่สอดคล้องกับเท้าเรา
ไม่ใช่ความแท้หรือความปลอมต่างหาก คือ บทสรุปที่เป็นจริง
(จบ)

11.17 น. / 21 มีนาคม 2555.

0
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้นะครับx
X