ผมอายุ 55 น้ำหนัก 68 กก.
วิ่งมินิ…1 ชม 20 นาที..เข้าเส้นแบบสดชื่น
วิ่งฮาล์ฟ….2 ชม 44 นาที (ที่ทับแก้ว)..เข้าเส้นแบบสดชื่น
วิ่งมาราธอน ปีที่แล้ว 6 ชม 10 นาที…
ช่วงกม 30 ไปแล้ว..ต้องลากเข้าเส้น..
ปีนี้ซ้อมมาน้อย…
ลงกรุงเทพมาราธอนคราวนี้..ตั้งใจใช้แผนการแบบนี้..
ได้ความคิดมาจากชีวิตประจำวัน…นอน 6 ชั่วโมง…ตื่น 18 ชั่วโมง
หมายความว่า…แบ่งเวลาออกเป็น 4 ส่วน พักทุกระยะ 1 ส่วน
จึงจะนำมาจัดการวิ่งแบบ..พักไปเรื่อยๆ…ให้เหมือนวงจรชีวิต
แผนการวิ่งจึงเป็นดังนี้
ช่วง 10 กม.แรก….วิ่งช้าๆ (8 นาที /กม.)
-ทุกๆการวิ่ง 1 กม พัก 1 นาที
-เดินขึ้นสะพานปิ่นเกล้า
-เดินขึ้นถนนลอยฟ้า
-ทุกจุดให้น้ำยืดเส้นทุกครั้ง
ช่วงกม. 10-20 วิ่งปกติตามความเร็วประจำตัว( 7 นาที/กม.)
-ทุกๆการวิ่ง 1 กม. พัก 1.5 นาที
-ทุกจุดให้น้ำยืดเส้นทุกครั้ง
ช่วง 20-30 กม วิ่งช้าลง ( 8 นาที/กม)
-ทุกๆการวิ่ง 1 กม. พัก 2 นาที(ตรงจุดนี้อาจปรับการพักให้น้อยลง..กลัวขาตาย)
-ทุกจุดให้น้ำยืดเส้นทุกครั้ง
ช่วง 30-42 วิ่งไปตามสภาพ…เดินมากขึ้น…
จนถึงเส้นชัย…หรือเลิกไปก่อนถ้าไม่ไหว
แผนนี้อาจไม่สวยงาม…เพียงเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บเท่านั้น…
ผมลองทดสอบการวิ่งแบบนี้ในสวนแล้ว..พบว่าให้ผลดีมาก
วิ่งได้ไกลขึ้น..โดยไม่เหน็ดเหนื่อย….
คุณฤกตย์ หรือ คุญเบญช่วยปรับแผนให้หน่อย
ยอมรับว่า..คราวนี้ไม่สมบูรณ์..ก็เพียงอยากร่วมสนุกได้เท่าที่ทำได้…ครับ
แผนการวิ่งเมื่อปีที่แล้ว..ผมวิ่งแบบนี้ครับ..
-เอาจุดให้น้ำเป็นหลักว่า..ระยะ 2 กม..
-คุมระยะไว้ที่ 14 นาที ต่อช่วงการให้น้ำ( 7 นาที/กม)
-ยืดเส้นทุกจุดให้น้ำ
-ตั้งนาฬิกาเป็น 0.00 เมื่อออกจากจุดให้น้ำ
-หากเวลาน้อยกว่า..แสดงว่าวิ่งเร็ว
-หากเวลามากกว่า..แสดงว่าวิ่งช้าไป…
-คุมการวิ่งด้วยนาฬิกาข้อมือ…
-ปรับการวิ่งให้อยู่ในความตั้งใจไว้
ผลคือ ตั้งแต่กม. 30 ขึ้นไป ซึ่งนักวิ่งเรียกกันว่า แดนนรก…
ยอมรับว่า..นรกจริงๆ…ต้องเดินมากกว่าวิ่ง
ผมคิดว่า..ปีนี้..ผมจะเอาการเดิน..มาเกลี่ยไว้ในทุกๆ กิโล…ครับ
