ชิน สปริ้นท์ (Shin Sprints

ชินสปริ้นท์ (Shin Sprints)

วันหนึ่ง นายด้อง เพื่อนนักวิ่งที่ซ้อมกันอยู่ทุกเย็น มาถามหายายเม้ากับผู้เขียน

เพราะเห็นเราขลุกอยู่ด้วยกัน บอกว่าอยากถามอะไรหน่อย พอทั้งคู่พบกัน

?เม้า..ชิน..สปริ้นท์ นี่มันเป็นยังไง?? ด้องเอ่ย

?อะไรกัน ไม่รู้จัก ชิน สปริ้นท์ เป็นนักวิ่งได้ไง!? เม้าท้วง

?ก็มันเป็นยังไงเล่า? ด้องพยายามเข้าเรื่อง

?นี่เธอ..เธอไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งถาม? เม้าทำท่าเหมือนหาเรื่อง

?ก็ถ้ารู้จะถามเหรอ? ด้องตอบตรงไปตรงมา

?ต้ายเธอ..วิ่งมาได้ไง? เม้าทำเสียงสูงตามจริตเดิม

?ก็คนเขาไม่รู้ก็บอกเขาหน่อยซิเม้า? ผู้เขียนเตือน

?ก็เป็นอาการบาดเจ็บที่ขึ้นชื่อลือชาที่สุดในหมู่นักวิ่งน่ะซิ เจ็บกันบ่อยมากแทบจะไม่มีใคร

ที่ไม่เคยโดนมาเลย เนี่ยะขนาด กฤตย์ เขายังรู้เลย เขารู้กันทั้งนั้น เปล่าย่ะ? เม้าประชดเสียงย่ะต่ำๆ

ผู้เขียนตกใจ เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน แต่ทำเฉยเป็นขงเบ้งตีขิมไว้ก่อนดีกว่า

ปล่อยให้ด้องมันรับไปคนเดียวไม่รับและไม่ปฎิเสธดีกว่า สู้คอยถ่างหูเงี่ยฟังให้ดี จะได้ความรู้เพิ่มเติม

จากยายเม้าไปเอง อะไรจะสู้ลงหลุมหลบภัยแล้วคอยจับตาสถานการณ์ปลอดภัยกว่า

?ก็ไปหาหมอ หมอไม่เคยบอกเลย มันเป็นอะไร?? ด้องอธิบายเหตุผล

?ถามซิยะ ปากมีไว้ทำไมกัน? แหมยายเม้านี่ระรานน่าดู ผู้เขียนชักเหม็นหน้า

?ตัวของเรานะเป็นอะไรเราต้องรู้จะได้ระวัง จะได้ทำตัวได้ถูกต้อง รู้ไว้บ้างอย่าเอาแต่วิ่งตะพึดตะพือนะจ๊ะ

ชิน สปริ้นท์เกิดเพราะเหตุอยู่ 3 ชนิด คือ Too Much,Too Fast แล้วก็ Too Soon ไม่มากไปก็เร็วไป?

ตำแหน่งที่เกิดก็คือ บริเวณขาส่วนล่างใต้หัวเข่าลงไป ตรงกลางระหว่างเข่ากับเท้าตรงแข้งนั่นเอง

จุดที่เกิดมี 2 บริเวณ คือ ด้านนอกกับด้านใน

บริเวณด้านในเรียกว่า Medial Shin Sprints และ Anterior Shin Sprints

หมอโรคเท้า เชลดอนแลพส์ (Sheldon Laps) D.P.M.จากวอชิงตัน.ดีซี บอกว่าสาเหตุเกิดจาก

ความไม่สมดุลย์ในการประสานงานของ กล้ามเนื้อน่องด้านข้างกับด้านหน้า ที่มักเจอในรายนักวิ่งหน้าใหม่

เหล่านี้ กล้ามเนื้อทั้งสองยังไม่สามารถปรับตัวให้ไปด้วยกันได้ดีกับงานหนักอย่างการวิ่ง หรือไม่ก็เป็นเพราะ

ขาดยืดเส้นหรือยืดเส้นที่น้อยเกินไป

ส่วนหมอ สตีเฟน พรีบัท (Stephen Pribut) D.M.P. จากดีซีเหมือนกันกล่าวว่า โดยทั่วไป

กล้ามเนื้อแข้งด้านหน้า ต้องทำงานหนักในการรับแรงกระแทกในตอนต้นๆของการก้าวย่างและส่งทอดพลัง

ไปให้กล้ามเนื้อด้านหลังขาต่อไป แต่กล้ามเนื้อหน้าแข้งกลับทำหน้าที่ได้ไม่ดี คือการฝึกวิ่งวันนั้น

เป็นงานหนักเกินกว่าที่กล้ามเนื้อจะรับได้ คือหนักไปนั่นเอง ที่ว่าเร็วไปก็เป็นทั้งสองความหมาย

คือ เร็วไปคือวิ่งด้วยความเร็วเกินไปหรือเร็วเกินไป ที่หมายความว่าเพิ่มความเข้มในโปรแกรมฝึก

อย่างหนึ่งอย่างใดก่อนเวลาอันควร (Too Much,Too Fast,Too Soon) ในหลายปีที่ผ่านมากับการศึกษา

เรื่อง ชิน สปริ้นท์ ก็มีหลายทฤษฎีที่เชื่อกันไปต่างๆ คุณหมอจูลี่ บอกว่าเป็นอาการที่เกิดจากเนื้อเยื่อบางๆ

ที่เป็นปลอกหุ้มอยู่บริเวณรอบกระดูกหน้าแข้งที่ยึดติดกับกล้ามเนื้อ เกิดการฉีกขาดหรือหลุดจาการยึดเกาะ

ติดกับกระดูก (Julie Colliton M.D.แพทย์ทางด้านเวชศาสตร์การกีฬาผู้เชี่ยวชาญและคณะกรรมการวารสาร

The Physician and sport medicine journal) และที่ฉีกขาดออกมานั้นก็เกิดการอักเสบต่อมาเลยเป็นอาการ

อย่างที่พวกเรารู้สึกกันอย่างนั้นเอง แต่ถึงที่สุดก็ยังไม่มีการเห็นพ้องกันในหมู่แพทย์ร้อยเปอร์เซนต์

เพียงแต่บรรดาหมอๆทั้งหลายพอจะสรุปคำแนะนำในเรื่องนี้ไว้ดังนี้

การบำบัดและป้องกัน Shin Sprints

1.แน่นอนครับ.หยุดวิ่งทันทีที่รู้ตัว ไม่ว่าคุณกำลังคอร์ทอยู่หรือกำลังคูลดาวน์อะไรก็ตาม ไม่มีคำว่า

?เดี๋ยวจะครบรอบแล้วค่อยหยุด? ไม่เอาเลย ให้หยุดเดี๋ยวนั้นทันทีและเดินต่อจนถึงที่หมาย

คอร์ทไม่ครบช่างมัน ในวันต่อไปก็ให้หยุดต่อหรือวิ่งเบา ลดทั้งความเข้มและปริมาณขึ้นกับความเจ็บปวด

และอาการ

2.ประคบน้ำแข็งบริเวณนั้น โดยมีเป้าหมายลดปริมาณเลือดหมุนเวียนเพื่อไม่ให้อักเสบในวันต่อไป

3.ยืดเส้นมากๆบริเวณร้อยหวาย (Achilles)และน่อง (Calves)ที่เห็นทำมากก็คือเอาขาพาดกำแพง

และดันกำแพง ส่วนท่ายืดเส้นหน้าแข้งไม่ค่อยเห็นมีใครทำกัน

ขอแนะนำดังนี้ ให้คุกเขาบนพรมหรือสนามหญ้า,ขา,ปลายเท้า,จัดคู่ขนานชี้ไปทางด้านหลัง ค่อยๆนั่ง

ทิ้งน้ำหนักลงบนส้นและน่องช้าๆ จะพบว่าเส้นน่องตึงขึ้น ให้นั่งทับทิ้งไว้ 10-12 วินาทีแล้วค่อยๆยกขึ้น

เพื่อให้เลือดเดินแล้วทำใหม่สลับไปสลับมาเรื่อยๆ …

*** กฤตย์ ทองคง

ขอขอบคุณ อาจารย์ กฤตย์ ทองคง สำหรับบทความครับ

0
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้นะครับx
X