การหายใจท้องป่องกับการหายใจท้องแบน

สังเกตุดูนะครับ..เวลาวิ่งเร็วๆ
การหายใจมันแรงเอง ท้องป่องอัตโนมัติ
เวลาวิ่งช้า การหายใจก็ราบเรียบ ไม่รุนแรง

ควรเข้าใจว่า
กระบังลมที่อยู่ในท้องมันทำหน้าที่เหมือนลูกสูบ
คือเคลื่อนที่ขึ้นลงได้

การที่กระบังลมมันทำงาน อากาศก็เข้าได้มาก
การถ่ายเทออกซิเจนก็มีมาก เป็นธรรมดา

แต่การหายใจเร็ว…อากาศเข้าปุบ ก็ออกปั้บ
เวลาการถ่ายเทอาอาศกับเม็ดเลือดแดงมันก็น้อย
ถึงอากาศจะเข้ามาก..ก็ถ่ายกันได้ไม่มาก

ผมว่าเองนะ…หายใจเข้าออกมากๆ..และ ช้าๆ เป็นดีที่สุด
แต่กว่าจะถึงจุดนี้ได้…ก็เฉพาะนักวิ่งที่ทรงพลัง
ผ่านการฝึกมายาวนาน จนร่างกายมีเกล็ดเลือดจำนวนมาก
สามารถถ่ายเทอากาศได้มากโดยไม่ต้องหายใจเร็ว
กล่าวคือ…แม้หายใจเอาอากาศเข้าน้อย
แต่ประสิทธิภาพของปอดมันมาก..ร่างกายก็ได้ออกซิเจนมาก

ก็เลยเกิดตำราที่ว่า…
ดูดเอาเลือดของตัวเองออกมา สลัดเอาเกล็ดเลือดไว้
เวลาจะแข่งขันก็ฉีดเกล็ดเลือดเข้าไป
ก็ทำให้ร่างกายมีเกล็ดเลือดมาก(เหมือนคนภูเขา)
การถ่ายเทออกซิเจนก็ทำได้มากเป็นพิเศษช่วงแข่งขัน
ร่างกายก็ไม่ค่อยเหน็ดเหนื่อย และเมื่อยล้า
พวกเล่นกีฬาระดับโลก มันเล่นกันถึงเพียงนี้

นี้เป็นวิทยาศษสตร์การกีฬา
ใครทำไม่เป็น..คิดว่าง่าย..อาจถึงตายได้

0
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้นะครับx
X