มาราธอนชุก ระวังโรคระบาด

ระยะนี้กำลังเป็นเทศกาลมาราธอน ที่มีสนามเต็มระยะ จัดกันถี่ๆ ให้เพื่อนนักวิ่งไตร่ตรองกันให้ดีๆ วิ่งกันให้บันยะบันยัง ดูระดับความสามารถของตัวเองด้วย เขาไม่ได้จัดให้นักวิ่งวิ่งกันทุกสนามทุกคน เช่นเดียวกับร้านอาหาร ไม่ได้ขายเพื่อให้ทุกคนต้องกินให้ครบ แต่เลือกเอาตามที่ชอบ ตามที่ใกล้ ตามระยะที่ถนัด ขืนไปกันหมดทุกสนามจะเสียสุขภาพ และอาจกลายเป็นบาดเจ็บได้

เป็นห่วงพวกเราจึงเตือนมา

อนึ่ง เป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ที่จะไปวิ่งกันให้ครบ เพราะชอบระยะเต็มนี้เป็นพิเสษ แต่ว่าไป พวกนี้เขาสะสมระยะทาง เข้าแฟ้มเกียรติประวัติเพื่อแข่งกัน หรือไม่ก็สะสมเหรียญมาราธอนโดยเฉพาะ เขาล้วนแต่วิ่งกันมานานแล้ว ขาแข็ง เก๋าเกม รู้จักประคองตัว กำหนดความเร็วได้ในระดับของตัวเองแม่นยำ จึงไปวิ่งกันทุกสนาม ซึ่งดูไปเถอะ พวกนี้ เขาเลือกที่จะเผชิญความหนักหนาเพียงประการเดียว คือ วิ่งปริมาณที่มาก แต่เขาจะไปไม่เร็ว ยิ่งในเดือนสองเดือนนี้จัดใกล้กัน นักวิ่งถูกบีบให้เข้มข้นไปกับ กระชั้นชิดอีกโสตหนึ่งเพิ่มขึ้น ดังนั้น พวกเราจึงควรวิ่งกันให้ช้าๆ

สาเหตุการบาดเจ็บจากการวิ่งเรื่องใหญ่ๆ ลุงพูดบ่อยว่ามาจาก 3 สาเหตุคือ

Too much
Too fast
Too soon

พวกเราคงจำได้ เรื่อง Too much กับ Too soon นี่คงเลี่ยงไม่พ้น ให้ระวังอย่าไปเร็วเข้าไปอีก มันจะบาดเจ็บ แล้วเรื่องจะยาว

พยายามเปิดศึกทีละด้าน อย่าประดังประเด หลายศึก เดี๋ยวร่างกายจะรับไว้ไม่อยู่

อันที่จริงอยากให้มีการสำรวจเก็บข้อมูลกันหลังเทศกาลมาราธอนระยะนี้ผ่านไป ว่า มีนักวิ่งเจ็บกันกี่ราย เมื่อเทียบกับก่อนเทศกาล ประกอบด้วยประวัติวิ่งอย่างไร ที่มีอายุราชการวิ่งมากน้อยขนาดไหน ผู้บาดเจ็บมีระยะสะสมต่อสัปดาห์เท่าไร ประวัติความบาดเจ็บจากวิ่งในอดีตและรายละเอียดแจกแจงให้เห็นเป็นข้อๆ เราน่าจะเห็นรูปธรรมชัดเจนระดับหนึ่ง

รายที่เก๋าเกม ลุงไม่ห่วง ถึงพวกเขาจะลักไก่ ผิดหลักการเวชศาสตร์กีฬาบางประการ แต่ล้วนเอาตัวรอดได้เสมอ เป็นห่วงก็แต่นักวิ่งพรรษาน้อย อารมณ์กำลังเห่อวิ่ง เวลาเขาเม้าส์กันที่ชมรม คนโน้นอย่างโง้น คนนี้อย่างงี้ อยากเอาบ้าง ความรู้ก็ยังไม่รู้รอบ ประสบการณ์ก็น้อย อารมณ์อยากวิ่งกลับเยอะ นี่เป็นกลุ่มเป็นกลุ่มที่ลุงเป็นห่วง

ดังนั้นใครที่ตรงสเป็คตามกล่าว ก็ให้ระแวดระวังตัวเองนะ เวลาเจ็บเจ็บเอง เวลาอดวิ่งอดเอง คนที่ชวนเราเขากลับไปวิ่งปร๋อ เหลือเราได้แต่นั่งดูเขาวิ่ง มันจะปวดใจ

สวัสดีคุณระกา
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของการลักไก่
เอาตัวอย่างตัวเอง ตัวของลุงเองนี่แหละ

พูดบอกเขาไปทั่วเมือง อย่างให้ติดกันนะ หนักไป ห่างออกบ้าง
แต่ตัวอาตมาไปแข่ง 5 – 6 สนามติดๆกัน ในรอบ 5 – 6 สัปดาห์
ล่อถ้วยมา 5 – 6 ใบ นี่อะไรกันลุงกฤตย์ พูดเองกลับทำซะเอง

เฮ้ยเอ็งอย่ายุ่งน่า ลักไก่นิดเดียว จะเป็นไรไป รำพึงกับตัวเอง โบร์ชัวร์น่าไปทุกงานเลย

เบื้องหลังคือลุงลงสนาม 10 โลเป็นส่วนมาก มีฮาล์ฟสลับบ้างเล็กน้อย และไม่มีสนามฮาล์ฟติดกันเลย จะมีสนาม 10 โลสลับอยู่ ยิ่งมาราธอน ไม่มีเลย

ระหว่างสัปดาห์ก็ไม่ซ้อม ยุติการซ้อม ไปแข่งลูกเดียว หยุดมันหกวันเลย
ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงมาก

นี่แหละลุงลักไก่ แต่เพราะความที่พอเป็นงานบ้าง จึงลักไก่อย่างมีศิลปะ ที่ไม่ยอมให้ร่างกายเจอหนักติดๆกันของสนามแข่ง มีสนามระยะสั้นมาขัดทัพ และในระหว่างสัปดาห์ แทนที่จะให้งอมไปกับการซ้อม ลุงเลิกวิ่ง เพื่อเอาสดไว้อุ่นใจ พอดีสุดสัปดาห์มาอีกรอบสดใหม่พอดี

แต่ลุงรู้ว่าการจะลักไก่อย่างนี้ ธรรมชาติ และร่างกายไม่ยอมอนุญาตให้ลักไก่ได้นานนัก ตัวเองย่อมรู้จักพอ สักพักหนึ่ง ต้องกลับมาเป็นเด็กดีเหมือนเดิม ซ่านั้นต้องมีเวลาจำกัด มีหิริโอตปะ ละอายเกรงกลัวบาปกรรม ***พวกโดดหอหน้าด้าน มักไม่แก่ตาย มีอันเป็นไปเสมอ

การลักไก่นี้ ลุงได้อธิบายด้วยอีกสำนวนหนึ่งในเล่ม 6 ในเรื่อง “วิ่งอย่างไรให้ยั่งยืน” หน้า 125 ความตอนหนึ่งว่า

บางครั้งบางคราวเราอาจไปท่องเที่ยวนอกจักรวาล ด้วยการเหาะเหินเดินอากาศ เหนือเส้นลิมิตแดงของตัวเองชั่วขณะ เพื่อจะได้รู้ว่า โลกข้างนอกนั้นเป็นอย่างไร เพื่อจะให้ตัวเองลิ้มรสชาติของการพัฒนา และกระตุ้นต่อมจินตนาการให้เพริศแพร้ว ขอขีดเส้นใต้ “ชั่วขณะ” แล้วก็กลับมายังถิ่นฐานบ้านช่องของตัวเองใต้เส้นแดง ก้มหน้าก้มตาฝึกวิ่งกันต่อไป ที่ไม่ว่าทางช้างเผือกที่ไปเห็นมาจะเพริศแพร้วขนาดไหน เราย่อมต้องคุมกำเนิดความใฝ่ฝันมิให้เตลิดเปิดเปิงมากนัก แม้วิตามินจะเป็นเม็ดอุดม แต่หากสวาปามเข้าเยอะเกินขนาด ย่อมมีพิษร้ายและเป็นภัยได้เสมอ

นี่ไม่ควรเป็นเรื่องเขียนลงหน้าสาธารณะ เด็กเล็กมันจะเหิมเกริมเอาไปเหาะซุปเปอร์แมนบ้างจะตกมาตาย ถามมาก็อธิบายไป อ่านจบแล้ว อย่าพูดไป อายเค้า

ไม่น่ามีปัญหาอะไรถ้าคุณเอาเหรียญไม่ใช่ถ้วย และมีอายุราชการวิ่งนานเป็นปีปีแล้ว
ระหว่างนี้การซ้อมยาวสูงสุด ลุงว่าไม่ควรเกินครึ่งหนึ่งคือ ฮาล์ฟ ไม่ว่าฮาล์ฟนั้นจะเป็นฮาล์ฟมาราธอนสนามแข่งหรือระยะทางของการซ้อมยาว ลุงว่าควรไปอย่างช้าๆ ช้ากว่าเพซมาราธอนจริงด้วยซ้ำ

วันเบาควรจะใช้การเดินแทนการวิ่ง หรือใช้สลับเข้าช่วย การซ้อมไม่ควรเกิน 5 วันต่อสัปดาห์ 4 วันยิ่งดี

ยืดเส้นเน้นมาก ประหยัดเวลาซ้อมลงไป มีเวลาเหลทอมากขึ้น ควรใช้หมดไปกับการศึกษาท่ายืดเส้นใหม่ๆ ทำให้การยืดเส้นคุณรอบด้านและมากขึ้น

เน้นความสดไว้ให้มาก อย่าไปพะวงกับการซ้อมที่น้อยมากทำให้เราหลงประเด็นว่า ซ้อมไม่ถึง ระยะเวลาเท่านี้ คุณไม่สามารถพัฒนาอะไรได้มากกว่าความฟิตที่เท่าเดิม

0
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้นะครับx
X